Advertisement

AIS นับเป็นบริษัทที่ปรับตัวอยู่เสมอครับ และไม่ใช่แค่ปรับตัวตาม แต่ปรับเพื่อนำหน้าไปดักรอความต้องการของลูกค้า รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรก่อนที่ลูกค้าจะรู้ตัวซะอีก

ล่าสุดกับ AIS Flagship Store ช้อปใหม่ ณ สยามเซ็นเตอร์ งานออกแบบที่เป็นสไตล์ Duplex Shop 2 ชั้น

Advertisement

มาในบรรยากาศทันสมัย โปร่งสบาย พร้อมเปลี่ยนแนวทางการให้บริการไปจากเดิม ยกเลิกแล้วกับระบบบัตรคิว เดินเข้าไปแจ้งความต้องการกับเจ้าหน้าที่บุคลากรยุคใหม่ที่พร้อมให้บริการแบบเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย มีความเป็นมืออาชีพในระดับผู้เชี่ยวชาญ และสุภาพพร้อมให้บริการในมาตรฐานพนักงานจาก AIS อยู่เช่นเดิม

เป็นการขอรับบริการแบบที่ไม่ต้องรอเข้าคิว ใช้วิธีการส่ง SMS เข้าไปแจ้งบนมือถือลูกค้าโดยตรงเมื่อถึงคิว ไปเดินเล่นได้เลย และให้บริการแบบ End2End ครบถ้วนต้นจนจบด้วยอุปกรณ์แท็บเล็ตประจำตัวพนักงาน

พร้อมจัดพื้นที่ขอคำปรึกษา AIS HUB ในบรรยากาศที่สบายๆ ริมหน้าต่าง เป็นที่นั่งคุยเกี่ยวกับปัญหา, การบริการ รวมถึงคำถามเกี่ยวกับ Digital Solution ต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการจะขอคำปรึกษา เดินเข้ามาขอใช้บริการได้แบบเป็นกันเอง

AIS Flagship Store มีพื้นที่ให้เดินเล่นได้สบายใจ เพราะในบริเวณช้อปมีการคัดเลือกสินค้าที่น่าสนใจเอามาโชว์ไว้ครบรสครับ ครบทุกไลฟ์สไตล์ที่คนรุ่นใหม่ในยุคนี้นิยม คัดเลือกมาตามคอนเซป AIS THE YOUNIVERSE ที่ให้ความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีการแบ่งโซนอุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้ชัดเจนให้เดินชมกันได้ตามความสนใจ

พื้นที่จัดจำหน่ายสินค้าสมาร์ทโฟน อุปกรณ์เสริม โดยปัจจุบันจัดโชว์สินค้าจาก Apple ไว้ครบถ้วน ทั้ง iPhone, iPad และอุปกรณ์เสริมครบถ้วน พร้อม Apple Watch

โดยใน AIS Flagship Store แห่งนี้เป็นสถานที่เดียวที่มีการจัดโชว์สินค้า Apple Watch ครบทุกรุ่นทุกขนาด และครบทุกชนิดสายเอาไว้ให้ได้สัมผัสตัวจริงกันมากที่สุดครับ ใครสนใจอยากจับตัวจริงก่อนตัดสินใจไปลองกันได้ที่สาขานี้

โซนจัดแสดงสินค้าสมาร์ทโฟนตัวแรง สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง และมุมอุปกรณ์จาก Samsung Galaxy Z Flip และ Z Fold

AIS Gadget Zone กลุ่มสินค้าแก็ดเจ็ตหลากหลายชนิดจากแบรนด์ต่างๆ และ AIS SmartHome Showcase  มุมสินค้าอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

บริการสกรีนเคสสมาร์ทโฟนด้วยเครื่องสกรีนคุณภาพสูง สามารถเลือกรูปที่ต้องการและตกแต่งลวดลายได้เองจากบนสมาร์ทโฟน ทำเคสที่ไม่เหมือนใครในราคา 290 บาท เลือกรูปและลวดลายเรียบร้อยไม่ต้องรอคิวเช่นเดิม เสร็จธุระค่อยกลับมารับก็ได้เช่นกัน

สินค้าทุกชิ้นและบริการทุกอย่างของที่นี่จะมาพร้อมผู้ให้คำปรึกษา สามารถสอบถามรายละเอียดและแนวทางการใช้งานจากพนักงานที่ AIS จัดเตรียมไว้ได้เลยครับ สาขานี้ผมเชื่อว่าคัดมาแล้วทุกคน ^^

นอกจากมุมโชว์สินค้าแล้ว ภายใน AIS Flagship Store ยังเป็นจุด Community จึงมีการเตรียมพร้อมด้วยพื้นที่กิจกรรมและพื้นที่อเนกประสงค์ ที่ AIS เตรียมนำเหล่าพาร์ทเนอร์ ครีเอเตอร์ มาจัดกิจกรรมพิเศษ

เช่นกิจกรรมพูดคุย เสริมความรู้ รวมถึงกิจกรรม DIY ที่เดือนนี้จะได้พบกับครีเอเตอร์ไทยชื่อดังอย่าง TIMO & TINTIN ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าร่วมทำกิจกรรม DIY ได้ด้วยเช่นกัน

AIS Flagship Store สาขาสยามเซ็นเตอร์ ใช้พื้นที่ชั้น 1 และชั้น 2 อยู่ติดประตูทางเข้าออกรถไฟฟ้า BTS เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกมากครับ เดินเข้าประตูสยามเซ็นเตอร์เข้าไปก็จะเจอได้เลย

การบริการดีๆ ในบรรยากาศสบาย ดูแลเป็นกันเองและครอบคลุมทั้งการให้บริการและให้คำปรึกษา เดินเล่นชทสินค้าที่คัดมาแล้วว่าน่าสนใจทุกชิ้นที่คนรุ่นใหม่น่าจะมีไว้ใช้งาน ทดสอบลองจับผลิตภัณฑ์ตัวฮิตที่มีการนำมาโชว์ให้ลองสัมผัสตัวจริงมากมายหลายรุ่น และเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดทั้งปีจากสิ่งที่ AIS จัดเตรียมเอาไว้ให้

ทั้งหมดคือช้อปบริการจากแนวคิดที่ปรับเปลี่ยนพัฒนาไปอยู่เสมอของ AIS ลูกค้าทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสหรือเยี่ยมชมช้อปแห่งใหม่นี้กันได้แล้วที่ชั้น 1 และชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์


พร้อมกันนี้ทาง AIS ยังเปิดให้บริการใหม่ที่น่าสนใจออกมาพร้อมกันด้วย นั้นคือ AIS Care+

AIS Care+ เป็นบริการคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตเครื่องใหม่ ที่เราต้องการความอุ่นใจในการใช้งานได้มากกว่าการรับประกันเครื่องตามปกติ

เพราะ AIS Care+ จะคุ้มครองความเสียหายให้เราในกรณีพิเศษ เช่นทำเครื่องตก จอแตก เครื่องตกน้ำ หรือแม้กระทั่งทำเครื่องหาย หรืออาจโดนขโมย ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้แม้การรับประกันเดิมของแบรนด์จะไม่ครอบคลุม แต่เราสามารถสมัครเพิ่มได้จาก AIS Care+

การคุ้มครองจะครอบคลุมเป็นระยะเวลานาน 12 เดือน โดยลูกค้าสามารถแจ้งรับบริการได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้

  • ขอรับการเปลี่ยนหน้าจอได้ฟรี 1 ครั้ง สำหรับกรณีหน้าจอเสียหายเพียงอย่างเดียว ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม
  • ขอเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์เครื่องใหม่ โดยนำเครื่องเดิมที่เคยสมัครบริการ AIS Care+ มาแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องได้หมดทุกสภาพ ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุการณ์ใด (ได้รับเครื่องใหม่ โดยมีค่าบริการเปลี่ยนเครื่อง 25% ของราคาเครื่องปกติ)
  • ขอรับเครื่องใหม่ โดยไม่ต้องนำอุปกรณ์เดิมมาแลกเปลี่ยน ในกรณีเครื่องหายหรือโดนขโมย ไม่สามารถนำเครื่องเก่ามาแลกเป็นเครื่องใหม่ ก็สามารถขอรับอุปกรณ์เครื่องใหม่กลับไปใช้ได้เช่นกัน (ได้รับเครื่องใหม่ โดยมีค่าบริการรับเครื่องใหม่ 42.5% ของราคาเครื่องปกติ)

และ AIS Care+ ยังอนุญาตให้ลูกค้าที่เลือกรับเครื่องใหม่ เป็นสีใหม่ที่ต่างไปจากสีเครื่องเดิมได้ด้วย รวมถึงมีข้อเสนอให้ลูกค้าที่อยากจะเปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนยี่ห้อไปจากเดิม ก็จะมีตัวเลือกจากทาง AIS Care+ มาให้กับเราด้วยเช่นกัน

ราคาค่าสมัคร AIS Care+ มีบริการทั้งในรูปแบบการจ่ายครั้งเดียว หรือจะแยกจ่ายเป็นรายเดือนก็ได้เช่นกัน โดยคิดออกมาเป็นราคาต่อปีที่ค่อนข้างคุ้ม สมเหตุสมผล และจะช่วยได้อย่างมากเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับอุปกรณ์ของเรา

เครื่องที่ได้รับการคุ้มครองจาก AIS Care+ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องขอรับบริการไปแล้ว ก็ยังสามารถขอรับบริการได้อีกในแพ็คเกจด้วยครับ เช่นเครื่องนี้อาจจะเคยนำมาใช้บริการเปลี่ยนหน้าจอแตกไปแล้ว 1 ครั้ง ก็ยังคงคุ้มครองต่อไปในกรณีต้องการแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ หรือขอรับเครื่องใหม่เมื่อทำหายได้อีกครังเป็นต้น โดยสามารถขอรับบริการได้สูงสุดถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว ตามกติการและรูปแบบการรับบริการด้านล่างนี้ครับ

AIS Care+ เป็นบริการพิเศษจาก AIS เท่านั้น ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ สามารถสมัครแพ็คเกจการคุ้มครอง AIS Care+ เพิ่มเติมได้ทันที โดยจะมีข้อแม้ในการขอรับบริการดังนี้

  1. เป็นอุปกรณ์ที่ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายในเครือ AIS เท่านั้น (ภายใต้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวิร์ค จำกัด) เช่น AIS Shop หรือร้านเทเลวิซ เป็นต้น
  2. ผู้สมัครเป็นลูกค้าของ AIS (ทั้งในระบบเติมเงินและรายเดือน ได้ทั้งลูกค้าเก่าหรือสมัครเบอร์ใหม่เพื่อรับบริการ AIS Care+ โดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน)
  3. ต้องสมัครภายใน 30 วัน หลังการซื้ออุปกรณ์เครื่องใหม่

สามารถสมัคร AIS Care+ ได้ทางหน้าร้าน AIS Shop, AIS  Buddy , ร้านเทเลวิซ โดยการนำอุปกรณ์ที่ต้องการสมัครติดตัวไปด้วย หรือสมัครด้วยตัวเองผ่านทางหมายเลข *534*1#แล้วโทรออก ทำตามขั้นตอนที่ได้รับทางโทรศัพท์

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: AIS Care Plus

แชร์
Avatar photo

ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน

Advertisement
Exit mobile version